ตำนานลึกลับ ตำนานความเชื่อ ที่ยังเป็นที่น่าสงสัย ว่ามีจริงหรือไม่?
ตำนานลึกลับ ในโลกใบนี้ยังมีอะไร ที่น่าสงสัยหลายอย่าง ซึ่งบางทีก็เป็น เรื่องราวแปลกๆ และในบางเรื่อง ก็ไม่สามารถที่จะ ระบุหรือหาที่มา ได้อย่างแน่ชัดจริงๆ บางเรื่องก็ถูกเล่าขาน สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งความเป็นจริง หรืออาจจะค่อยๆถูกบิดเบือน จนในบางครั้ง ก็กลายมาเป็น
ตำนานลึกลับ เรื่องราวแปลกๆ ที่ไม่สามารถหาที่มา ที่ถูกต้องได้นั่นเอง ซึ่งจะขอยกตัวอย่าง เหตุการณ์ในประเทศไทย กับความเชื่อว่า ในทุกๆวัน ขึ่น 15 ค่ำ เดือน 11 จะเกิดเหตุการณ์ บั้งไฟพญานาค พุ่งขึ้นเหนือน้ำตาม ตำนานเรื่องเล่า ว่าการเกิดบั้งไฟ หรือลูกไฟนี้นั้น เป็นสิ่งที่เกิดจากพญานาค
แต่ในบางคนก็ บอกว่ามันเกิดมาจาก คนในฝั่งลาวนั้น ยิงพลุไฟขึ้นมา เพื่อให้เหมือนกับว่า เป็นบั้งไฟพญานาค ซึ่งก็เคยมีรายการ ไปค้นหาคำตอบเรื่องนี้ และพบว่าเป็นการ ยิงพลุไฟึ้นจริง แต่ว่าบางคนเอง ก็ยังคงเชื่อและศรัทธา ว่ามันเกิดจากบั้งไฟจริงๆ ซึ่งในแถบอีสาน จังหวัดที่มีแม่น้ำโขงไหลผ่าน
ก็จะมีความเชื่อว่า เวลาพบเจอเกลียวคลื่น ในแม่น้ำโขงบางคน ก็จะบอกว่านี่คือ การขึ้นมาเล่นน้ำ ของพญานาคซึ่งก็ยัง ไม่มีใครที่สามารถพิสูจน์ เรื่องลึกลับ นี้ได้แบบชัดเจน ซึ่งก็ยังคงเป็น เรื่องลึกลับ ที่ต่างคนก็ต่างมี ตำนานเรื่องเล่า และการเล่าขานถึง ตำนานความเชื่อ ถ้าหากไม่ลบหลู่ ความเชื่อของกันและกัน ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ แบบไม่มีปัญหาแน่นอน
ตำนานลึกลับ เรื่องราวแปลกๆ ของความลึกลับ ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้
เป็นอีกเรื่องราว ตำนานลึกลับ ที่ยังคงไม่มีใคร พิสูจน์ได้ว่ามันมี สถานที่นี้อยู่จริงหรือไม่กับ ตำนานความเชื่อ ของเมืองลับแลที่อยู่ใน จังหวัดอุตรดิตถ์ที่เป็น หนึ่งในอำเภอเล็กๆ ของทางภาคอีสาน ที่ความเป็นมานั้น ต้องย้อนกลับไปยุค สมัยรัชกาลที่ 1 ที่จุดเริ่มต้นนั้น ชาวแพร่หนีข้าศึก
มาตั้งเป็นชุมชน ซึ่งในแถบนี้เป็นแนวป่า ที่สามารถซ่อนตัวได้ดี ซึ่งในเหตุการณ์ที่เป็น ตำนานความเชื่อ ที่เล่าต่อกันมาคือ จะต้องเป็นผู้ที่ มีบุญถึงจะได้ เข้าไปยังเมืองลับแล โดยเรื่องเล่านั้น เริ่มจากมีชายหนุ่มคนหนึ่ง พบเจอหญิงสาวกลุ่มนึง เดินออกมาจากป่าลึก และนำใบไม้
วางไว้ตามทาง และเข้าไปในเมือง ตนเกิดความสงสัย จึงนำใบไม้มาดู และเก็บไว้พร้อมกับ หลบซ่อนตัวรอจน กลุ่มหญิงสาวกลับมา ต่างคนต่างก็หยิบ ใบไม่ที่ซ่อนไว้ แล้วเดินหายเข้าไป จนคนสุดท้าย นั้นหาใบไม่ของตนไม่เจอ ชายหนุ่มจึงออกมา และคืนใบไม้ให้ แต่มีข้อแม้ว่า
ขอติดตามนางไป ยังเมืองลับแลด้วย ซึ่งเมื่อได้ติดตาม และเข้าไปได้พบ กับชาวเมืองที่มีแต่ผู้หญิง ซึ่งเหตผลคือสามารถ รักษาตนให้อยู่ในศีล ได้ดีกว่าผู้ชาย เพราะในเมืองลับแล ใครที่ผิดศีลจะถูก ขับออกจากเมืองทันที ซึ่งชายหนุ่มและหญิงสาว ก็ได้อยู่ร่วมกัน จนมีบุตรร่วมกัน
แต่ก็เกิดเหตุการณ์ ที่ทำให้ชายหนุ่ม ต้องถูกขัออกจากเมือง เนื่องจากพูดโกหก โดยที่ไม่รู้ตัว แต่ในตอนที่ออกมา ภรรยาของตนได้ ให้ขมิ้นติดตัวใส่ย่ามมา แต่ว่าระหว่างทาง รู้สึกว่ามันหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ทิ้งไป และเมื่อออกมา ถึงหมู่บ้านของตน กลับพบว่ามันได้
กลายมาเป็นทองแท่ง และเมื่อกลับไปดู ตามทางที่ทิ้งไว้ ก็กลายเป็นต้นขมิ้น ธรรมดาเท่านั้น ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวนี้ก็ยังคงเป็น ตำนานความเชื่อ ที่ยังไม่มีใคร พิสูจน์ได้ว่า ความลึกลับ เรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่
เรื่องลึกลับ สถานที่ลึกลับบนโลก ที่หาข้อสรุปไม่ได้ถึงที่มา และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
บนโลกใบนี้นั้น ยังมีอะไรที่น่าพิศวง และยังเป็นการ รวมเรื่องแปลก ที่ไม่สามารถหาว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ขอเริ่มที่แรกกับ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา สถานที่ลึกลับบนโลก น่านน้ำที่กลืนกิน ทั้งเรือและเครื่องบินมากมาย ที่หายไปแบบไร้ร่องรอย ซึ่งจากหลักการวิเคราะห์ เรื่องราวแปลกๆ ในด้านวิทยาศาตร์ มีข้อบ่งชี้ว่า
มันเกิดจากการมี ความแปรปรวนของสภาพอากาศ เป็นจุดสำคัญจึงทำให้ เกิดทัศนวิสัยที่แย่ จึงทำให้เรือและเครื่องบิน ที่ผ่านยังบริเวณนั้น หายสาปสูญไปจำนวนมาก ซึ่งก็คาดกัยว่า มันก็จมลงทะเลไปนั่นเอง แต่ความจริงแล้ว ก็ยังไม่มีอะไร ที่มาเป็นข้อยืนยัน ความลึกลับ ได้แบบชัดเจน ว่าสิ่งที่หายสาปสูญไป นั้นไปอยู่ที่ไหนกัน
และอีกสถานที่ ที่ถูกกล่าวว่าเป็น สถานที่ลึกลับบนโลก ที่ปกปิดความน่าสงสัย อย่างการมีอยู่ ของมนุษยืต่างดาวที่ สหรัฐอเมริกาพยายาม ปกปิดเอาไว้เป็น เรื่องลึกลับ ที่หลายๆคนสงสัยว่า เป็นที่เก็บหลักฐาน ของมุนษย์ต่างดาว ที่มาเยือนโลกทั้ง ข้าวของเครื่องใช้
รวมไปถึงจาบบินอีกด้วย กับฐานทัพแอเรีย 51 ซึ่งตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบันนี้การ จัดกิจกรรมหรือพิธีการ ใดๆก็ตามในที่นี้ จะถูกเก็บเป็นความลับระดับสูง และพยายามปิดบัง เรื่องลึกลับ กับบุคคลภายนอก ว่าข้างในนี้นั้นมีอะไร หรือกำลังทำอะไรกันอยู่ เป็นอีกหนึ่งใน สถานที่ลึกลับบนโลก ที่หาคำตอบได้ยาก
ความลึกลับ เรื่องเล่าประวัติศาสตร์ เรื่องแปลกจากทั่วมุมโลก ที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้
ในแต่ละที่บนโลก มักจะมีสิ่งต่างๆ หรือบางสถานที่นั้น เหมือนเป็นที่ รวมเรื่องแปลก ที่หาที่มาไม่ได้ ซึ่งเรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ นับว่าเป็นเหตุการณ์ ที่ถือเป็นหนึ่งใน เรื่องเล่าประวัติศาสตร์ ที่เป็นเรื่องลึกลับ และยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ เริ่มที่เหตุการณ์ การเสียชีวิตของ
กลุ่มนักปีนเขา บนเขายัตลอฟ ในประเทศรัสเซีย ในปี 2502 อีกเรื่องราวของ เรื่องเล่าประวัติศาสตร์ ความลึกลับ ในการเสียชีวิต ของทั้ง 9 นักปีนเขาที่ มีการเสียชีวิตที่แปลก ซึ่งสภาพศพของแต่ละคน นั้นอยู่ในลักษณะ ที่ผิดธรรมชาติ อย่างบางคนเสียชีวิต แบบร่างกายเปลือย บางคนลิ้นหายไป
และยังพบกัมมันตรังสี บนเสื้อผ้าบางคน ซึ่งในจุดนี้นั้น ไม่ใช่ที่อันตราย สำหรับการกางเต๊นท์ เพื่อพักผ่อนและไม่ใช่ จุดที่เกิดหิมะถล่ม นี่จึงเป็นข้อที่ ไม่มีใครหาสาเหตุ หรือพิสูจน์ได้เลยว่า มันเกิดจากอะไร และยังทำให้มันกลายเป็น เรื่องเล่าประวัติศาสตร์ เพราะว่าสรุปสาเหตุ ของการตายทั้ง 9 คน ออกมาว่าเสียชีวิต จากพลังงานลึกลับ นับว่าเป็น ตำนานสุดหลอน ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ว่าอะไรมาทำให้ ทั้งหมดนี้เสียชีวิต
ตำนานเรื่องเล่า ตำนานสุดหลอน กับผีสาวปากฉีก ตำนานความหลอนผีญี่ปุ่น
ถ้าจะกล่าวถึงเรื่อง ตำนานสุดหลอน ผีญี่ปุ่นก็ถือว่า มักจะมีเรื่องเล่าและ ความลึกลับ ที่โด่งดังมาเสมอ สำหรับเรื่องผีสาวปากฉีก ตำนานเรื่องเล่า ที่เกิดจากหญิงสาว ที่สวยมากจนสามีเทอ ระแวงและคิดว่าเทอ ไปมีชู้จึงได้เอาดาบ มาตัดปากของเทอ ให้กว้างถึงหู และเพราะว่าความแค้น
จึงทำให้เทอหลอกหลอน ชาวบ้านที่ผ่านแถวนั้น ที่จะเอาผ้าปิดปาก และเดินเข้าไปถาม ว่าตนสวยหรือไม่ ถ้ามีใครตอบกลับมา ก็จะเปิดผ้าให้ดู รอยแผลกว้างที่ปากของเทอ และจะวิ่งไล่หลอกหลอน จนเรื่องนี้กลายเป็น ตำนานเรื่องเล่า ตำนานสุดหลอน ที่ทำให้เด็กๆ ในช่วงนั้นไม่กล้าออกจากบ้าน ใชเวลากลางคืนเลย